รายงานข่าวจากกรมทางหลวง(ทล.)แจ้งว่า สำนักก่อสร้างทางที่ 2 ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี จำนวน 2 โครงการ ระยะทางรวม 37.8 กิโลเมตร(กม.)งบประมาณรวม 2,041,816,789บาท โดยมีบริษัท สหวิศวก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง มีรายละเอียดดังนี้
1.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 317 สายจันทบุรี-สระแก้ว ตอน อ.สอยดาว-บ.เขาแหลม ตอน 1 ช่วง กม.65+350-กม.82+000 พื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ระยะทาง 16.650 กม. งบประมาณ 896,934,789 บาท ปัจจุบันมีความคืบหน้า 57.952% จากแผนงาน 66.288% ช้ากว่าแผน 8.336% เนื่องจากติดขัดระบบรื้อย้ายสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา สายสื่อสารต่างๆ และผลกระทบจากโควิด-19 โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วอยู่ระหว่างการรื้อย้าย จากนั้นจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน
โครงการดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาวันที่ 24 ก.ย. 63 สิ้นสุดสัญญา 11 เม.ย. 66 ระยะเวลา 930 วัน รูปแบบโครงการได้ขยายช่องจราจรจากเดิมขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ เป็น 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ทิศทางละ 2 ช่อง ผิวจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร ผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต แบ่งทิศทางจราจรด้วยกำแพงคอนกรีต
ทั้งนี้บริเวณย่านชุมชนจะก่อสร้างเป็น 10 ช่องจราจร ทิศทางละ 5 ช่องจราจร แบ่งเป็นทางหลักด้านละ 3 ช่องจราจร และทางขนานด้านละ 2 ช่องจราจร ผิวคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อสร้างสะพานคู่ 6 แห่ง ติดตั้งไฟแสงสว่างบนทางหลวง สัญญาณไฟจราจร 1 แห่ง ก่อสร้างศาลาทางหลวง 21 แห่ง และจุดกลับรถ 7 แห่งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
2.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 317 สายจันทบุรี-สระแก้ว ตอน อ.โป่งน้ำร้อน-อ.สอยดาว ช่วง กม.44+200-กม.65+350 พื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ระยะทาง 21.150 กม. งบประมาณ1,144,882,000บาท ปัจจุบันมีความคืบหน้า 71.974%จากแผนงาน 98.725%ช้ากว่าแผน 26.751%เนื่องจากที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เกิดความล่าช้า อย่างไรก็ตามจะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนต่อไป
โครงการนี้เริ่มต้นสัญญา 16 มี.ค. 62 สิ้นสุดสัญญา 5 มี.ค. 66 ระยะเวลา 1,451 วัน โดยได้ก่อสร้างขยายช่องจราจรจากเดิม 2 ช่องจราจร ไป-กลับ เป็น 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก ก่อสร้างสะพาน 8 แห่ง สะพานลอยคนเดินข้าม 3 แห่ง ก่อสร้างเพิ่มความยาวท่อเหลี่ยม 3 แห่ง ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง สัญญาณไฟจราจร 1 แห่ง ศาลาทางหลวง 26 แห่ง และ จุดกลับรถ 10 แห่ง
สำหรับ 2 โครงการเป็นสายทางที่มีความสำคัญของ จ.จันทบุรี ปัจจุบันทางหลวงดังกล่าวเป็นขนาด 2 ช่องจราจร และมีปริมาณจราจรหนาแน่น เพราะเป็นเส้นทางหลักเชื่อมระหว่าง จ.จันทบุรี และ จ.สระแก้ว เป็นทางหลวงที่เชื่อมโยงระบบคมนาคม และเป็นเส้นทางหลักด้านการจราจรของพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงและภาคตะวันออก
เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยให้ผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ คมนาคมขนส่งเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศกัมพูชา รองรับปริมาณการจราจรทางหลวงสายหลัก แก้ไขปัญหาจราจร และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง